เทรนด์การออกแบบร้านเสริมสวยที่กำลังมาแรงในปี 2025
- Decco develop
- 26 ก.พ.
- ยาว 3 นาที

ร้านเสริมสวยยุคใหม่ต้องมีอะไรบ้าง?" การออกแบบร้านเสริมสวยให้ทันสมัยและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในปี 2025 ไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่ยังต้องคำนึงถึง ฟังก์ชัน, เทคโนโลยี และประสบการณ์ของลูกค้า มาดูกันว่า เทรนด์ร้านเสริมสวยแห่งอนาคต มีอะไรบ้าง
แนวคิด “Minimal Luxury” – เรียบง่ายแต่ดูแพง
การออกแบบร้านเสริมสวยในแนวคิด "Minimal Luxury" คือการผสมผสานระหว่างความเรียบง่าย (Minimalism) กับความหรูหรา (Luxury) อย่างลงตัว โดยให้ความสำคัญกับฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน ภายใต้ดีไซน์ที่หรูหราแต่ไม่ฟุ่มเฟือย

หลักการออกแบบร้านเสริมสวยสไตล์ Minimal Luxury
โทนสีที่เรียบหรู
ใช้สีโทนกลาง (Neutral tones) เช่น ขาว เทา ดำ เบจ หรือสีเอิร์ธโทน
เพิ่มความหรูหราด้วยสีทอง โรสโกลด์ หรือสีเงินในรายละเอียด เช่น กรอบกระจก หรือขาเฟอร์นิเจอร์
วัสดุคุณภาพสูง
เลือกใช้วัสดุหรูหรา เช่น หินอ่อน ไม้ธรรมชาติ กระจกใส และโลหะเงางาม
พื้นผิวที่มีความมันวาวหรือลื่นไหล ช่วยเพิ่มความรู้สึกพรีเมียม
เฟอร์นิเจอร์ที่มีเส้นสายเรียบง่าย
เฟอร์นิเจอร์ควรมีดีไซน์ที่ทันสมัยและรูปทรงเรขาคณิต
เน้นเฟอร์นิเจอร์ที่มีเส้นสายสะอาดตา ไม่มีรายละเอียดที่ซับซ้อน
การจัดวางพื้นที่อย่างมีระบบ
ใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่รกหรือวุ่นวาย
เปิดพื้นที่โล่งเพื่อสร้างความรู้สึกโปร่งสบาย เพิ่มประสบการณ์ที่ผ่อนคลายให้ลูกค้า
แสงไฟที่อบอุ่นและนุ่มนวล
ใช้ไฟ Warm White เพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น
เพิ่มไฟส่องเฉพาะจุด เช่น รอบกระจกแต่งหน้า เพื่อให้ความรู้สึกหรูหรา
ดีไซน์กระจกและรายละเอียดเล็กๆ
กระจกบานใหญ่ทรงเรขาคณิต สามารถช่วยเพิ่มความลึกให้กับพื้นที่
ใช้รายละเอียดเล็กๆ เช่น โลโก้ร้านแบบเรียบหรู หรือของตกแต่งที่มีความหมาย
ความสมดุลระหว่างฟังก์ชันและความสวยงาม
ทุกองค์ประกอบควรตอบโจทย์การใช้งานจริง เช่น เก้าอี้สระผมที่นั่งสบาย โต๊ะทำผมที่ใช้งานสะดวก
ในขณะเดียวกันก็ควรมีความหรูหราในดีไซน์และวัสดุ
ทำไมสไตล์ Minimal Luxury ถึงมาแรง?
ลูกค้าชอบร้านที่ดูสะอาด โปร่งโล่ง แต่ยังคงความหรูหรา
ใช้โทนสีอ่อน + วัสดุพรีเมียม ทำให้ร้านดูมีระดับ
จัดพื้นที่แบบมินิมอล ไม่รก และใช้งานได้จริง
วิธีออกแบบร้านสไตล์นี้
✔ ใช้ สีเอิร์ธโทน เช่น เบจ, ขาวครีม, เทาอ่อน ผสมกับ ทอง, โรสโกลด์
✔ ใช้วัสดุที่ดูหรูหรา เช่น หินอ่อน, ไม้ธรรมชาติ, กระจกสะท้อนแสง
✔ เฟอร์นิเจอร์ต้องมีเส้นสายเรียบง่าย ไม่มีลวดลายเยอะ
Bio-Design – การออกแบบที่ใกล้ชิดธรรมชาติ
การนำแนวคิด ชีวภาพ (Biology) และ ธรรมชาติ (Nature) มาผสานเข้ากับการออกแบบภายในร้าน โดยเน้นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ สร้างบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ สุขภาพดี และยั่งยืน (Sustainability) ทั้งในด้านการเลือกใช้วัสดุ พื้นที่ และประสบการณ์ของผู้ใช้

หลักการออกแบบร้านเสริมสวยสไตล์ Bio-Design
แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ (Nature-Inspired Design)
ใช้เส้นสายที่เลียนแบบรูปทรงทางชีวภาพ เช่น รูปทรงใบไม้ คลื่นน้ำ หรือโครงสร้างของเซลล์
ลวดลายบนผนังหรือเฟอร์นิเจอร์ที่สื่อถึงธรรมชาติ
วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Sustainable Materials)
เลือกใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ ไม้ไผ่ หินธรรมชาติ และดินเผา
วัสดุรีไซเคิล หรือวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้
พื้นที่สีเขียว (Green Spaces)
นำต้นไม้หรือสวนแนวตั้ง (Vertical Garden) มาเป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่ง
ใช้พืชฟอกอากาศเพื่อลดมลภาวะและเพิ่มความสดชื่นภายในร้าน
แสงธรรมชาติ (Natural Lighting)
ออกแบบให้มีช่องหน้าต่างหรือหลังคากระจกเพื่อนำแสงธรรมชาติเข้าสู่ร้าน
ใช้ไฟ LED ประหยัดพลังงานที่มีอุณหภูมิสีใกล้เคียงกับแสงธรรมชาติ
การไหลเวียนของอากาศ (Natural Ventilation)
ออกแบบให้มีระบบการระบายอากาศที่ดีเพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้า
สร้างพื้นที่เปิดโล่ง (Open Space) เพื่อลดความอึดอัดและเพิ่มความผ่อนคลาย
การออกแบบที่เน้นความยั่งยืน (Sustainable Design)
การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่สามารถรีไซเคิลได้
ระบบน้ำหมุนเวียนหรือน้ำแบบประหยัดเพื่อใช้ในการบริการ
โทนสีที่เป็นธรรมชาติ (Natural Color Palette)
ใช้สีเอิร์ธโทน (Earth Tones) เช่น น้ำตาล เขียว มะกอก เทา และครีม
สีที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและสะท้อนถึงความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ
สัมผัสที่เป็นธรรมชาติ (Tactile Experience)
พื้นผิวสัมผัสที่มาจากวัสดุธรรมชาติ เช่น พื้นไม้ พรมจากเส้นใยธรรมชาติ
เฟอร์นิเจอร์ที่ให้ความรู้สึกสบายเมื่อสัมผัส
บรรยากาศที่ได้จากการออกแบบร้านเสริมสวยสไตล์ Bio-Design
ให้ความรู้สึกสงบ สดชื่น และเป็นมิตร
เสริมสร้างประสบการณ์การดูแลตัวเองที่สอดคล้องกับธรรมชาติ
สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าว่าร้านใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ
ความรู้สึกผ่อนคลายเสมือนได้รีทรีตท่ามกลางธรรมชาติ
ตัวอย่างแนวคิดพิเศษที่นำมาใช้ในร้านเสริมสวยสไตล์ Bio-Design
โซนทำผมที่มองเห็นสวนสีเขียวด้านนอก
โต๊ะทำเล็บที่ทำจากไม้รีไซเคิล
ห้องสปาที่ตกแต่งด้วยหินแม่น้ำและกลิ่นอโรมาจากน้ำมันหอมระเหย
กระจกทรงออร์แกนิกที่เลียนแบบเส้นสายของธรรมชาติ
ทำไมถึงมาแรง?
✅ ลูกค้าชอบบรรยากาศที่ทำให้รู้สึกสงบ ผ่อนคลาย
✅ การตกแต่งด้วยต้นไม้ช่วยกรองอากาศ และสร้างความรู้สึกสดชื่น
✅ ทำให้ร้านเสริมสวยดูอบอุ่น และลดความเครียดของลูกค้า
วิธีตกแต่งให้เป็นแนว Bio-Design
✔ เพิ่ม ต้นไม้ฟอกอากาศ เช่น มอนสเตอร่า, ลิ้นมังกร, เฟิร์น
✔ ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้แท้ หรือไม้ลายธรรมชาติ
✔ จัดแสงไฟให้นุ่มนวล ให้ความรู้สึกอบอุ่น
✔ ถ้ามีพื้นที่ ควรมีโซน Outdoor หรือมุมพักผ่อนที่มีต้นไม้
Smart Salon – นำเทคโนโลยีมาใช้ในร้าน
Smart Salon คือร้านเสริมสวยที่ผสาน เทคโนโลยีล้ำสมัย กับการให้บริการด้านความงาม เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าให้ทันสมัย สะดวกสบาย และเป็นส่วนตัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้ ระบบอัตโนมัติ, AI, AR/VR, หรือ IoT เพื่อเพิ่มคุณภาพของบริการและลดระยะเวลาการรอคิว

ตัวอย่างคอนเซปต์ของ Smart Salon ยอดนิยม
AI-Powered Hair Studio
บริการออกแบบทรงผมแบบ AI พร้อมกระจกอัจฉริยะ
ระบบจองคิวและแนะนำทรงผมแบบเรียลไทม์
Tech & Trend Smart Beauty Hub
รวมเทคโนโลยี VR/AR ให้ลูกค้าลองทรงผมก่อนตัดจริง
มีโซนคาเฟ่และ Co-working Space
Minimal Luxe Smart Salon
ออกแบบด้วยสีขาว-ทองพร้อมแสงไฟอัจฉริยะ
ใช้เทคโนโลยี IoT ในการควบคุมทุกระบบภายในร้าน
Green Smart Salon
ผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะกับการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ใช้พลังงานทดแทนและวัสดุรีไซเคิล
ทำไม Smart Salon ถึงเป็นอนาคตของธุรกิจเสริมสวย?
ประหยัดเวลา: จองคิวและบริการผ่านแอปฯ
ลดข้อผิดพลาด: เทคโนโลยีช่วยวิเคราะห์ความต้องการลูกค้า
เป็นส่วนตัว: บริการที่ออกแบบมาเฉพาะบุคคล
สร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร: มอบบริการที่น่าจดจำและล้ำสมัย
ยกระดับภาพลักษณ์: ลูกค้ารู้สึกว่าได้รับบริการในระดับพรีเมียม
เทคโนโลยีที่ควรมี
✔ ระบบจองคิวออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์
✔ กระจกอัจฉริยะ (Smart Mirror) ที่สามารถแสดงตัวอย่างทรงผมก่อนทำจริง
✔ เครื่องชำระเงินไร้เงินสด เช่น QR Code, e-Wallets
✔ ระบบบันทึกข้อมูลลูกค้า (CRM) เพื่อติดตามประวัติการใช้บริการ
Self-Care Space – เพิ่มโซนดูแลตัวเอง
Self-Care Space ในร้านเสริมสวยคือ พื้นที่ที่ออกแบบมาเพื่อการดูแลตัวเองแบบองค์รวม ไม่ใช่แค่การทำผมหรือเสริมสวยเท่านั้น แต่ยังเป็น พื้นที่สำหรับการผ่อนคลาย ฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ ผ่านกิจกรรมที่เสริมสร้างความงามจากภายในสู่ภายนอก

ทำไม Self-Care Space ถึงเป็นที่นิยมในร้านเสริมสวย?
ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตใจและร่างกาย
มอบประสบการณ์ที่ครอบคลุม ทั้งการเสริมสวยและการฟื้นฟูตัวเอง
เป็นจุดขายที่สร้างความแตกต่าง จากร้านเสริมสวยทั่วไป
ดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่มองหาการพักผ่อนอย่างมีคุณค่า
Self-Care Space คือพื้นที่ในร้านเสริมสวยที่เน้น “ความงามและความสุขจากภายในสู่ภายนอก”
มีโซนผ่อนคลาย ทำสปา โยคะ และการบำรุงผิว
บรรยากาศสงบและอบอุ่นด้วยการออกแบบแนวธรรมชาติ
มอบประสบการณ์ที่ครบวงจร ทั้งความงามและการดูแลสุขภาพ
Sustainable Salon – ร้านเสริมสวยสายรักษ์โลก
การออกแบบร้านเสริมสวยในสไตล์ Sustainable Salon จะเน้นความยั่งยืน (Sustainability) ทั้งในด้านการออกแบบ วัสดุที่ใช้ และการดำเนินงาน โดยมุ่งเน้นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าและเป็นมิตรต่อโลก

แนวคิดหลักของการออกแบบ Sustainable Salon
ใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ใช้ ไม้รีไซเคิล, เหล็กรีไซเคิล, หินธรรมชาติ และวัสดุที่ย่อยสลายได้
เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิลหรือวัสดุที่ผ่านกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ติดตั้ง ไฟ LED ประหยัดพลังงาน และใช้ระบบไฟที่ควบคุมด้วยเซ็นเซอร์
ออกแบบร้านให้มี หน้าต่างขนาดใหญ่ เพื่อให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามา ลดการใช้ไฟฟ้า
ลดการใช้น้ำและพลังงานในกระบวนการบริการ
ใช้ หัวฝักบัวประหยัดน้ำ สำหรับการสระผม
เลือกอุปกรณ์ที่ ใช้พลังงานต่ำ เช่น ไดร์เป่าผมและเครื่องอบไอน้ำที่ประหยัดไฟ
การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและผิวพรรณที่เป็น Organic, Vegan หรือ Cruelty-Free
ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ รีไซเคิลได้ หรือ ย่อยสลายได้
การตกแต่งด้วยธรรมชาติ
เพิ่มพื้นที่สีเขียว ด้วยต้นไม้ในร่มที่ช่วยฟอกอากาศ
ใช้ ผนังสีเขียว (Green Wall) หรือสวนแนวตั้งเพื่อเพิ่มความสดชื่นและลดมลภาวะ
การออกแบบเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี
ใช้ สีโทนอบอุ่น หรือ Earth Tone ที่ให้ความรู้สึกสงบและผ่อนคลาย
การจัดสรร พื้นที่ส่วนตัว สำหรับการทำสปาหรือการดูแลตัวเอง
ระบบการจัดการขยะที่ยั่งยืน
คัดแยกขยะ สำหรับการรีไซเคิล
นำ เส้นผมที่ตัดแล้ว ไปรีไซเคิล เช่น นำไปผลิตพรมหรือนำไปใช้ในโครงการทางสิ่งแวดล้อม
การตกแต่งและสไตล์ใน Sustainable Salon
Minimalist Design: เน้นความเรียบง่ายแต่หรูหรา เพื่อหลีกเลี่ยงความสิ้นเปลือง
Neutral & Earthy Colors: ใช้โทนสีธรรมชาติ เช่น เบจ น้ำตาล เขียวอ่อน เพื่อสื่อถึงความยั่งยืน
Eco-friendly Lighting: เน้นการใช้ไฟธรรมชาติควบคู่กับไฟ LED
Open Space Concept: ออกแบบให้พื้นที่โปร่งโล่งเพื่อประหยัดพลังงานจากเครื่องปรับอากาศ
ตัวอย่างแนวคิดที่น่าสนใจใน Sustainable Salon
Zero Waste Station: สถานีที่ลูกค้าสามารถเติมผลิตภัณฑ์จากขวดรีฟิลเพื่อลดขยะ
Recycled Hair Project: โครงการรีไซเคิลเส้นผมเพื่อลดขยะ เช่น การนำไปใช้ในการทำความสะอาดน้ำมันจากทะเล
Waterless Services: บริการบางอย่างที่ไม่ต้องใช้น้ำ เพื่อลดการใช้น้ำโดยไม่จำเป็น
ทำไมถึงมาแรง?
ลูกค้าสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อม และอยากสนับสนุนร้านที่เป็นมิตรกับโลก
ใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก หรือ Vegan-Friendly เป็นที่นิยม
ประหยัดพลังงาน ลดต้นทุนในระยะยาว
วิธีเปลี่ยนร้านให้เป็น Sustainable Salon
✔ ใช้ ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เช่น แชมพูปลอดสารเคมี
✔ ใช้ ไฟ LED ประหยัดพลังงาน และเปิดหน้าต่างรับแสงธรรมชาติ
✔ ลดการใช้พลาสติก เช่น ใช้แก้วน้ำแบบ Reusable ให้ลูกค้า
✔ มีโซน รีไซเคิลขยะ หรือใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
instagrammable Salon – ตกแต่งให้ลูกค้าถ่ายรูปได้
Instagrammable Salon คือร้านเสริมสวยที่ออกแบบให้สวยงาม น่าดึงดูด และ เหมาะสำหรับการถ่ายรูปลงโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะ Instagram จุดเด่นของร้านสไตล์นี้คือต้อง สะดุดตา, มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ, และ มีเอกลักษณ์ที่ดึงดูดลูกค้า ให้เข้ามาใช้บริการพร้อมถ่ายรูปแชร์บนโซเชียล

ทำไมถึงมาแรง?
ลูกค้าชอบถ่ายรูปและแชร์ลงโซเชียลมีเดีย
ช่วยโปรโมทร้านแบบ “ฟรี” เพราะลูกค้าแชร์เอง
เพิ่มความน่าสนใจ และดึงดูดลูกค้ารุ่นใหม่
ไอเดียทำร้านให้ถ่ายรูปสวยๆ
✔ มี Backdrop มุมสวยๆ เช่น กำแพงดอกไม้, ไฟนีออน, กระจกสวยๆ
✔ ใช้ ไฟที่ช่วยให้สีผมดูสวย เหมาะกับการถ่ายรูป
✔ มี โลโก้ร้านในมุมถ่ายรูป ให้ลูกค้าแท็กใน Instagram
Multi-Function Salon – ร้านที่ให้บริการครบวงจร
Multi-Function Salon คือร้านเสริมสวยที่ผสมผสานบริการและฟังก์ชันหลากหลายไว้ในที่เดียว เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า ไม่ใช่แค่ตัดผม แต่ยังรวมถึงบริการดูแลความงามแบบครบวงจร (One-Stop Beauty Destination) พร้อมพื้นที่สำหรับกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ครอบคลุมและสะดวกสบาย

ตัวอย่างคอนเซปต์ Multi-Function Salon ยอดนิยม
Urban Luxe Salon & Café
บริการทำผม พร้อมคาเฟ่พรีเมียมในร้าน
บรรยากาศหรูหราแต่เข้าถึงง่าย
Beauty & Wellness Hub
ผสมผสานสปา, ทรีทเมนต์หน้า และโยคะเพื่อสุขภาพ
มอบความงามทั้งจากภายนอกและภายใน
Tech & Trend Salon
ใช้เทคโนโลยี AR ในการออกแบบทรงผม
มีสตูดิโอถ่ายภาพและไลฟ์สตรีมมุมความงาม
Family-Friendly Salon
แยกโซนสำหรับเด็กและผู้ใหญ่
มีมุมของเล่นและหนังสือสำหรับเด็ก
เหตุผลที่ Multi-Function Salon ได้รับความนิยม
สะดวกสบาย: ครบทุกบริการในที่เดียว
ตอบโจทย์ลูกค้าหลากหลายกลุ่ม: ทั้งผู้ที่ต้องการความงาม สุขภาพ และความบันเทิง
สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ: ลูกค้าไม่เพียงมาเสริมสวย แต่ยังได้พักผ่อน ทำงาน หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ
เป็นจุดถ่ายรูปสำหรับโซเชียลมีเดีย: ตกแต่งร้านให้มีมุม Instagrammable เพิ่มความดึงดูด
หากคุณกำลังมองหาไอเดียในการออกแบบหรือตกแต่งร้านเสริมสวย ให้เราได้ช่วยสร้างสรรค์พื้นที่ความงามในแบบที่คุณต้องการ ปรึกษาเราได้ที่ Saloncent เราพร้อมดูแลทุกดีไซน์เพื่อร้านเสริมสวยของคุณ
ดูเพิ่มเติมได้ที่นี่
Comments